รองเท้านิรภัย

 รองเท้านิรภัย Safety Shoes
   

  
การเลือกใช้รองเท้านิรภัยให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
   ชนิดของรองเท้านิรภัยสามารถแบ่งประเภทของรองเท้านิรภัยที่ใช้ในการป้องกันอันตรายต่างๆ
   ตามลักษณะการใช้งานได้ 4 ประเภทดังนี้
   1. รองเท้าหนังนิรภัยหรือรองเท้าหนังหัวโลหะ
   รองเท้านิรภัยชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้ในประเทศเรามาก ใช้ในการป้องกันวัตถุกระแทก ของหล่นทับ รองเท้านิรภัยเป็นรองเท้าหุ้มส้น หุ้มข้อ หรือหุ้มแข็ง มีเหล็กหัวบัว(หัวโลหะ) ครอบป้องกันบริเวณนิ้วเท้าทั้งหมด รองเท้านิรภัยที่มีแผ่นเหล็กรองบริเวณฝ่าเท้าจะใช้สำหรับงานซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับของมีคมบาดหรือตำทะลุผ่านใต้ฝ่าเท้าขึ้นมา ส้นรองเท้าและพื้นรองเท้ามักจะเป็นดอกหรือลายพื้นยางเพื่อกันลื่น หกล้ม รองเท้านิรภัยนี้ แบ่งออกเป็น3ระดับ ตามความทนต่อแรงกดและแรงกระแทกที่บริเวณเหล็กหัวบัว
   2. รองเท้าสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับงานไฟฟ้า
รองเท้านิรภัยชนิดนี้ต้องมีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี ป้องกันเหงื่อหรือที่เปียกชื้นของบริเวณเท้าและฝ่าเท้า ซึ่งเหงื่อและความเปียกชื้นเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกายได้ดี รองเท้านิรภัยที่ชำรุดห้ามซ่อมแซมโดยใช้ตะปู หรือลวดตรึง
เพราะสิ่งเหล่านี้นำกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
   3. รองเท้าที่ใช้ในโรงหลอมและหล่อโลหะ
รองเท้านิรภัยที่ใช้ในอุตสาหกรรมประเภทนี้ ควรเป็นรองเท้านิรภัยที่ทำจากวัสดุกันความร้อนได้ ส่วนบนของรองเท้านิรภัยควรมีการปกคลุมบริเวณขาให้สูงขึ้นมา เพื่อป้องกันการกระเด็นหรือหก จากโลหะเหลวที่หลอมละลาย
   4. รองเท้านิรภัยที่ใช้ในบริเวณที่มีหรือสงสัยว่ามีสารหรือของผสมที่ไวไฟ
โดยรองเท้านิรภัยชนิดนี้จะป้องกันไฟฟ้าสถิติที่เกิดขึ้นจากร่างกายมนุษย์ ซึ่งอาจจะเกิดการเหนี่ยวนำ ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดการระเบิดหรือลุกไหม้ขึ้นได้ รองเท้าประเภทนี้จะมีค่าความต้านทานไฟฟ้าได้ในอัตราต่างๆหลายระดับ ซึ่งผู้ปฏิบัติงานต้องศึกษาว่าบริเวณที่ตนทำงาน ควรใช้รองเท้านิรภัยที่มีความต้านทานไฟฟ้าระดับใด


การใช้และบำรุงรักษารองเท้านิรภัย
1. เลือกชนิดรองเท้านิรภัยให้เหมาะสมกับลักษณะงาน และลักษณะของอันตรายที่เกิดขึ้น เช่น การใช้รองเท้านิรภัยในงานก่อสร้างหรืองานที่อาจจะมี อุบัติเหตุเกี่ยวกับวัสดุหล่นทับ การบาด การทะลุผ่าน ควรใช้รองเท้านิรภัยหนังหัวเหล็ก และมีแผ่นเหล็กรองบริเวณฝ่าเท้า เป็นต้น

     2. รูปทรงและขนาดเหมาะสมกับรองเท้านิรภัย น้ำหนักไม่มากเกินไป คือไม่ควรมีน้ำหนักมากกว่า กิโลกรัม สวมกระชับ ใส่สบาย เช่นเดียวกับรองเท้านิรภัยแบบอื่นๆ และถอดใส่สะดวกเมื่อเหตุ ฉุกเฉิน เช่น สารเคมี หรือสะเก็ดไฟ กระเด็นเข้าไปในรองเท้า เป็นต้น

     3. ก่อนจัดซื้อ หรือนำมาใช้ เจ้าของสถานประกอบการควรจะแน่ใจว่า รองเท้านิรภัยเหล่านี้ได้ผ่านการตรวจสอบต่างๆ และได้มาตรฐานจากหน่วยงานของรัฐในเรื่องของการทดสอบแรงกด แรงกระแทก รองเท้านิรภัยที่ใช้ป้องกันกระแสไฟฟ้าในงานที่เกี่ยวข้องไฟฟ้าทั้งหมด ควรได้รับการทดสอบความต้านทานไฟฟ้าของพื้นรองเท้านิรภัย นอกจากนี้ควรทดสอบการติดแน่นของพื้นรองเท้านิรภัย และการทนแรงทะลุของแผ่นโลหะที่รองบริเวณฝ่าเท้า เป็นต้น

     4. จัดให้มีการอบรมพนักงานหรือจัดทำคู่มือแนะนำถึง
          - ความสำคัญของการป้องกันเท้า และการใช้รองเท้านิรภัยให้เป็นที่ยอมรับและตระหนักถึงการใช้อย่างจริงจัง
          - การเลือกใช้รองเท้านิรภัยแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
          - แสดง หรือสาธิต การใช้ และการเก็บรักษาอย่างถูกวิธี

     5. ก่อนนำรองเท้านิรภัยหรืออุปกรณ์ป้องกันขาและเท้ามาใช้ทุกครั้ง หรือหลังเลิกใช้งานแล้ว ควรตรวจสอบว่ายังมีสภาพใช้งานได้ต่อไปหรือไม่ ควรแก้ไขหรือส่งให้ช่างซ่อมส่วนใดบ้าง

     6. โดยทั่วไปรองเท้านิรภัยและอุปกรณ์ป้องกันขาและเท้าทั้งหมด ควรเก็บในที่สะอาดและแห้งไม่ปะปนกับอุปกรณ์อื่นๆ


     7. ทำความสะอาดเช็ดสิ่งสกปรกต่างๆ ออกหลังการใช้งานทุกครั้ง และระวังการติดเชื้อบริเวณเท้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น